สรุปโดย : ยุวรรณ์ดา พานทอง rewriter : ศศิธร ภู่จีนาพันธ์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
การประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2549 วันที่สอง ที่ประชุมยังเน้นย้ำเรื่องการนำหลักธรรมไปใช้ในการสร้างสันติสุขในสังคมโลก ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี คาดหวังให้เด็กและเยาวชนคำสอนของพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน และการแก้ปัญหาสังคม
วันที่ 2 ของการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2549 ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ เริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าด้วยพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา โดยผู้นำสงฆ์และผู้นำชาวพุทธจากจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งมีบุคคลสำคัญ คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนร่วมการประชุมกว่า 1,500 คน โดยพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุม และเน้นย้ำว่า การจัดงานปีนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์แค่การเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญต้องการให้นำเอาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ในการดำเนินชีวิต และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในโลก เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความสงบสุข ทั้งภายในตัวบุคคลที่นับถือ และในสังคมรอบตัว
ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้เป็นผู้แทนกล่าวสาส์นของของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการเห็นเด็กและเยาวชนนำคำสอนของพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งหวังว่าผลจากการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาสังคม และเกิดสันติภาพของโลกได้ ติดตามจากคุณจามร กิจเาสาวภาคย์ ค่ะ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการกล่าวสาส์น ของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นคำสอนของพระพุทธศาสนาได้ถูกส่งต่อไปยังเด็กและเยาวชนชาวพุทธ และนำใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งคำสอนของพระพุทธศาสนา เหมาะสำหรับทุกคนและทุกวัย ปัญหาหลักจึงอยู่ที่ว่า จะสนับส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างไรให้คำสอนได้ไปถึงทุกคนอย่างถ้วนหน้า โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมชาวพุทธนานาชาติ โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีที่พิเศษ เนื่องจากเป็นปีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอใช้โอกาสนี้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วามงานทุกท่านสู่ประเทศไทย โดย 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้สนับสนุนและส่งเสริมการเผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะในเรื่องของสันติภาพโลก และการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดเวลาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการสัมมนาในหัวข้อนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาในครั้งนี้จะนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่จะก่อให้เกิดสันติภาพในโลกและแก้ปัญหาต่างๆได้
และก่อนหน้านี้ นายคิม ฮัก สุ เลขาธิการบริหารองค์การสหประชาชาติ กล่าวสาส์นแทนนายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ว่า ในฐานะผู้แทนองค์การสหประชาชาติ นับเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชน จะได้ใช้งานนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยมองว่าสังคมปัจจุบัน มีปัญหาความขัดแย้งทางวัฒนธรรมอยู่ทั่วโลก ดังนั้นการใช้ศาสนาพุทธจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งและความไม่เท่าเทียมกันของมนุษย์ได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดสันติภาพบนโลก
ด้านนายไคชิโร มาตสุอุรา เลขาธิการยูเนสโก กล่าวว่า อยากใช้โอกาสนี้ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครอบ 60 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาในการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงอุตสาหะที่จะสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นบนความหลากหลายทางเชื้อชาติศาสนาในประเทศ ซึ่งในสถานการณ์โลกปัจจุบัน คำสอนของพระพุทธเจ้ามีความสำคัญ และต้องใช้อย่างเร่งด่วน เพราะการเห็นใจกัน และเคารพซึ่งกันและกันเป็นสิ่งจำเป็นในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ผู้นำศาสนา และผู้นำการเมือง ควรใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในโลก
ที่มา : http://thainews.prd.go.th/previewnews.php?m_newsid=254905080086&tb=NEWS